Flag Day

มีตอนหนึ่งที่ความประพฤติปฏิบัติแล้วก็ความประพฤติส่วนตัวของดาราที่มีความรู้ความเข้าใจอย่างSean Pennเป็นศัตรูตัวฉกาจที่สุดของเขาเอง และก็เขาก็เข้าใจนี้ ฉันเคยอ้างคำพูดจากคำพูดตอบรับเมื่อเขาได้รับรางวัลออสการ์สาขาผู้แสดงนำฝ่ายชายดีเยี่ยมที่สุดจากผลงานเรื่องMilk มาก่อนแล้ว : “ฉันทราบดีว่ามันยากเพียงใดที่จะยกย่องฉัน” แล้วก็ในเวลาที่เขาดูเหมือนจะมีความสงบสุขและก็มีชีวิตที่มีประสิทธิผลในบางด้านมากยิ่งกว่าที่เขาเคยทำในสมัยที่ฮอลลีวูดลงนรก แนวโน้มที่จะเอาชนะตนเองได้เข้ามาในชีวิตศิลป์ของเขาด้วยดูหนังออนไลน์ “ The Indian Runner ”, “ The Crossing Guard ” แล้วก็ “ The Pledge ” เขาได้พิสูจน์ให้มองเห็นถึงการเป็นผู้กำกับที่คลั่งไคล้แล้วก็มีความเข้าใจเยอะขึ้น “ Into the Wild ” ความบากบั่นอย่างกล้าหาญเปิดโลกทัศน์แล้วก็มีศีลธรรมในหลายๆด้าน แม้กระนั้นได้แสดงความกล้าให้กับนักแสดงนำที่ทำลายตนเองในแบบที่บางบุคคลบางทีอาจเรียกว่าไม่อาจจะคุ้มครองปกป้องได้ในเชิงปรัชญา “ The Last Face ” ในปี 2017 ได้ก้าวไปอีกขั้นในโลกที่การอาบน้ำแล้วก็การควบคุมตัวเอง ในรูปภาพยนตร์เรื่องใหม่ของเขา “Flag Day” เขาแสดงในรูปภาพยนตร์ที่เขาควบคุมเป็นครั้งแรก เหมือนกับเด็กสองคนของเขาดีแลนเพนน์แล้วก็กระโจนแจ็คเพนน์ด้านความพากเพียรของครอบครัวของภาพมิได้คือปัญหาจริงๆทั้งยัง Dylan ซึ่งมองถูกใจแม่ของคุณเป็นRobin Wrightรวมทั้ง Hopper Jack ซึ่งตรงนี้ค่อนข้างจะคล้ายกับSpike Jonzeภายหลังจากถูกยืดออกบนชั้นวางยุคกลางสองสามวันนั้นดียิ่งกว่าดาราที่มีความรู้และความเข้าใจ สิ่งที่ทำให้ภาพยนตร์ประเด็นนี้สะดุดเป็นแหล่งข้อมูล บันทึกโดยผู้สื่อข่าวเจนนิเฟอร์ โม้เกิลเกี่ยวกับบิดาที่เป็นผู้ร้ายในอาชีพของคุณ จอห์น โอ้อวดเกล นักปลอมแล้วก็มิจฉาชีพ ทั้งยังเรื่องราวโดยรวมแล้วก็นักแสดงของจอห์นที่เพนน์เล่นตรงนี้ เป็นแรงดลใจให้เพนน์ขึ้นเวที ดีมากกว่าที่มีเหตุผล พลวัตของครอบครัวที่ไม่ปกติอะไรบางอย่างที่สะดุดตา แล้วก็พวกเขายังเป็นแรงจูงใจให้เขามีความโรแมนติกรวมทั้งแสดงกริยาที่อ้าปากหวออย่างแท้จริง น้อยลงนานัปการภาพยนตร์ประเด็นนี้เปิดขึ้นในปี 1992 โดยมีเจนนิเฟอร์สวมบทบาทโดยดีแลน ศึกษาว่าบิดาของคุณเป็นมิจฉาชีพที่ดีแค่ไหน ตัดต่อด้วยฟุตเทจสไตล์ “ยกการ์แลนด์ เอ็กซ์เพรส” ของกองรถยนต์ตำรวจที่ไล่หลังยานพาหนะคันเดียวที่หนีไม่พ้น พวกเราย้อนกลับไปในปี 1970; วิทยุติดรถยนต์เล่นเพลง “Sister Golden Hair” ของอเมริกา (ตรงกันข้ามกับสิ่งที่คุณเชื่อในหนังร่วมยุค นี่ไม่ใช่เพลงป๊อปเพลงเดียวในปี 1975) และก็เพนน์ แต่งขึ้นเพื่อมองอ่อนกว่าวัยแล้วก็มีขนบนบริเวณใบหน้าที่เนียนจริง , ดูดบุหรี่แล้วก็วาดรูปเพศชายที่เยี่ยมที่สุดในจักรวาลให้กับเจน (แอดดิสัน ไทเมค) สาวน้อย “เสน่ห์” ของจอห์น “กะล่อน” นั้นดูถูกดูแคลนร้านขายของนิดๆหน่อยๆทั้งยังในด้านแนวความคิดและก็สำหรับการแสดงของเพนน์ เขาทำเป็นดีมากกว่าในหนังมากมาย ยิ่งเขาใกล้วัยของตนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆแค่นั้น แล้วก็ยิ่งเขาจำต้องแสดงความผิดพลาดที่แหลกสลายและก็น่าสังเวชเป็นส่วนมากจอห์นเป็นบิดาที่หลงทางที่เด็กๆ(ฮ็อปเปอร์แจ็คเป็นน้องชายของเจน) รัก; Patty ของKatheryn Winnickเป็นแม่ขี้เหล้าที่สุดท้ายก็ยืดออกรวมทั้งเปลี่ยนเป็นคนลากแบบอื่นซึ่งเป็นสาวกของ AA ที่เฉยเมยต่อความบากบั่นของผัวคนใหม่ของคุณที่จะรังควานเจนนิเฟอร์ บอกมิได้ว่าเพนน์มีความอิสระแค่ไหน ดำเนินการจากบทของ เจซบัตเตอร์เวิร์ธแล้วก็จอห์น-เฮนรี่ บัตเตอร์เวิร์ธน้องชายของเขาเองเอามาด้วยแหล่งข้อมูลของพวกเขา แต่ว่าการแสดงส่วนมากตรงนี้ให้ความรู้ความเข้าใจสึกเคยชินกับภาพยนตร์มากยิ่งกว่าที่จะรู้จักดีในชีวิตจริง “Flag Day” จัดแจงกับความกะล่อนของจอห์น โม้เกิล รวมทั้งแนวทางที่เจนนิเฟอร์ โม้เกิลสามารถก้าวผ่านการเลี้ยงที่ไร้ประโยชน์ที่สุดได้ ในตอนครึ่งแรกยาว จะแสดงฉากที่ผู้แสดงแสดงอารมณ์ความรู้สึกด้วยการทิ้งอย่างสิ้นเชิงขณะที่กล้องถ่ายรูปโทรศัพท์มือถือพากเพียรรักษาให้ทัน มันค่อนข้างจะไม่ต่างอะไรและก็ scattershot ฉากย้อนอดีตจะบากบั่นดึงผู้ดูกลับไปสู่อารมณ์หรือธีมที่ชี้เฉพาะรวมทั้งโดยส่วนมากแล้วเครื่องใช้ไม้สอยดูอย่างกับว่าเข้าถึงได้ ซึ่งทำให้ทั้งหมดทุกอย่างงงเยอะขึ้นเมื่ออยู่ในหนังที่ Penn กล่าวถึงเรื่องย้อนไปว่า ที่จริงเป็นแนวทางที่เขาอยากได้เช่นเดียวกันเมื่อเจนอาศัยอยู่เต็มเวลาโดยดีแลนและก็ย้ายไปอยู่กับจอห์นเพื่อมานะทำให้ชีวิตของพวกเขาทั้งคู่ดำเนินไปในทางที่ดี ภาพยนตร์จะหยุดรำคาญแล้วก็บอกให้เห็นด้านที่ไม่อ้อมค้อมรวมทั้งเอาจริงเอาจัง ทั้งคู่ Pennsทำสิ่งที่สุดยอดในฉากพวกนี้ แล้วก็ “Flag Day” เริ่มเอ๋ยถึงสถานีอารมณ์ที่ไม่ธรรมดแต่ว่าแล้วมีตอนจบ ซึ่งอย่างที่ใครๆก็ศึกษาได้ทาง Interwebsเป็นความจริงตามข้อพิสูจน์เกี่ยวกับการจบอาชีพของ John Vogel แต่ว่าโน่นทำให้เพนน์ได้โอกาสแสดงอัฒจรรย์ที่เลวทรามที่สุดเท่าที่เขาเคยทำมาทั้งยังในฐานะผู้กำกับแล้วก็ผู้แสดง เขาไม่ยอมรับจังหวะนั้นไหม? ไม่เขาไม่ รวมทั้งโดยเหตุนี้ ฉันก็เลยสงสัยว่าคุณจะได้มองเห็นตอนสุดท้ายที่เฮฮาในหนังมากยิ่งกว่าปีนี้